รวมตำราดูแลสุนัขต้อนรับหน้าฝน
หน้าฝนเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งฤดูที่ปล่อยให้น้องหมาคลาดสายตาไม่ได้ เพราะอากาศของประเทศไทยในช่วงฤดูฝนคาดเดาได้ยากสุดๆ แม้ว่าจะมีแดดออกแต่ผ่านไปไม่นานเม็ดฝนก็เริ่มลง คงเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ว่าใครก็ต้องเคยพบเจอแน่นอน นอกจากจะทำให้มนุษย์เราลำบากแล้ว น้องหมายังมีโอกาสป่วยในช่วงนี้ได้ง่ายๆ อีกด้วย ดังนั้นเราจึงรวบรวมข้อมูลเพื่อการดูแลสุนัขต้อนรับหน้าฝนมาให้คุณที่นี่เรียบร้อย
- ไม่ปล่อยให้สุนัขตากฝน
ขั้นตอนการดูแลสุนัขในหน้าฝนอันดับแรกก็คือการไม่ปล่อยให้สุนัขตากฝนนั่นเอง เพราะการที่น้องหมาตัวเปียกจะทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นไข้หวัด ดังนั้นหากสุนัขของคุณเปียกน้ำฝน ทางทีดีคือให้รีบเช็ดตัวให้เร็วที่สุด
- ดูแลสุนัขให้ห่างความชื้น
หน้าฝนทำให้อากาศชื้นมากกว่าปกติ ความอับชื้นเหล่านี้เป็นต้นตอของเชื้อราและโรคผิวหนังของสุนัขหลายๆ อย่าง ดังนั้นเมื่อสุนัขออกไปเปียกฝนหรือไปเล่นน้ำจนเปียก คุณจะต้องดูแลสุนัขด้วยการทำความสะอาดพร้อมทำให้ขนแห้งอย่างเร็วที่สุด นอกจากนี้แล้วอากาศเย็นในหน้าฝนก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่อาจทำให้น้องหมาไม่สบายได้ หากสุนัขของคุณขี้หนาวการหาเสื้อผ้าอุ่นๆ มาสวมใส่ให้เจ้าตัวน้อยก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ
- ความสะอาดที่ขาดไม่ได้
การดูแลสุนัขเรื่องความสะอาดไม่ใช่เพียงการทำความสะอาดตัวน้องหมาเท่านั้น แต่อุปกรณ์อย่างชามข้าว ชามน้ำ ของเล่นน้องหมาหรือพื้นที่ที่น้องหมาอยู่อาศัยก็ต้องหมั่นทำความสะอาดเช่นกัน อย่างที่รู้ว่าช่วงหน้าฝนความอับชื้นเกิดขึ้นได้ง่าย การทำความสะอาดจึงสำคัญมาก ทั้งหมดนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้แหล่งที่อยู่กลายเป็นสถานที่เพาะเชื้อรา รวมถึงอาหารในชามข้าวก็ไม่ควรปล่อยค้างไว้ด้วย หมั่นตรวจสอบอยู่เสมอเป็นป้องกันไม่ให้อาหารขึ้นราหรือบูดเสียในกรณีที่เป็นอาหารปรุงเอง ช่วยทำให้สุนัขห่างจากอาการถ่ายท้อง
- ฉีดวัคซีนตามกำหนด
อีกหนึ่งวิธีการดูแลสุนัขในหน้าฝนที่ข้ามไม่ได้คือการพาสุนัขฉีดวัคซีนตามกำหนด การฉีดวัคซีนเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันภายในร่างกายของสุนัข ช่วยทำให้สุนัขพร้อมในการต่อสู้กับเชื้อโรคที่เข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว โดยปกติแล้วสุนัขควรฉีดวัคซีนกระตุ้นปีละ 1 ครั้ง สามารถขอรับคำปรึกษาเพิ่มเติมกับสัตวแพทย์ได้เลย
โรคสุนัขหน้าฝนต้องระวัง
นอกจากวิธีดูแลสุนัขในหน้าฝนข้างบนแล้ว ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ยังมีโรคสุนัขหน้าฝนอีกหลายอย่างด้วยกันที่ต้องระวังเป็นพิเศษ มาดูกันเลยว่ามีโรคอะไรบ้างที่ควรจำให้ขึ้นใจ
- โรคพยาธิในเม็ดเลือด – เป็นโรคที่มี “เห็บ” เป็นพาหะนำโรค เมื่อเชื้อเหล่านี้เข้าไปในร่างกายก็จะเกาะตามเม็ดเลือด ส่งผลให้สุนัข เบื่ออาหาร ซึม มีไข้สูง เลือดหยุดไหลยาก เป็นต้น กรณีที่มีอาการผิดสังเกต แนะนำให้พาพบสัตวแพทย์อย่างเร็วที่สุด
- โรคขี้เรื้อน - สามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 ประเภทคือ โรคขี้เรื้อนเปียกและโรคขี้เรื้อนแห้ง เป็นโรคที่มี “ตัวไร” เป็นพาหะนำโรค ถือว่าเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่ยังสามารถพบได้ในปัจจุบัน ตัวไรมักอาศัยอยู่ตามรูขุมขน ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า สุนัขที่เป็นโรคขี้เรื้อนจะมีปัญหาทางด้านผิวหนัง ผิวขึ้นผื่นแดง ขนร่วงเป็นหย่อมๆ จนน่ากลัว รักษาได้หลายแบบด้วยกันทั้งยาทาและยาฉีด เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องการแพ้ยา ผู้ปกครองน้องหมาไม่ควรซื้อยามาหยอดเอง การรักษาควรอยู่ในการดูแลของสัตวแพทย์อย่างใกล้ชิด
- โรคพยาธิหนอนหัวใจ - เป็นโรคที่มี “ยุง” เป็นพาหะนำโรค หากเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดก็จะทำให้น้องหมาเริ่มมีอาการเกี่ยวกับระบบหายใจ ส่งผลให้หายใจหอย เหนื่อยง่าย เริ่มมีการไอและเบื่ออาหาร การรักษาโรคนี้ในสุนัขส่วนใหญ่จะเป็นการฉีดยาฆ่าพยาธิ ไม่สามารถหายได้ทันทีและต้องใช้เวลาในการรักษา ดังนั้นถ้าหากเห็นสุนัขเข้าข่ายการเป็นโรคนี้ควรรีบนำมาพบสัตวแพทย์อย่างเร็วที่สุด ในกรณีร้ายแรงสุนัขอาจถึงแก่ชีวิตได้เช่นกัน
- โรคผิวหนังอื่นๆ – เช่น โรคผิวหนังจากเชื้อรา โรคภูมิแพ้ผิวหนังหรือโรคขนร่วงก็เป็นโรคสุนัขหน้าฝนที่พบได้บ่อยเช่นกัน สุนัขมักมีอาการคันและผื่นแดงขึ้น
เห็บ หมัดและไรเจริญเติบโตได้ดีในช่วงหน้าฝน อีกทั้งยังเป็นพาหะนำโรคที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก ผู้ปกครองทุกท่านควรดูแลสุนัขให้ดีที่สุด หมั่นตรวจสภาพผิวหนังน้องหมา สังเกตอาการ เป็นต้น อย่างไรก็ตามการใช้ยากำจัดปรสิตเหล่านี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่นิยมในปัจจุบัน สามารถปรึกษาสัตวแพทย์เรื่องการใช้ยากำจัดปรสิตเพื่อการใช้งานที่ถูกต้องก็จะช่วยทำให้ห่างไกลโรคสุนัขหน้าฝนยิ่งขึ้น
เป็นอย่างไรกันบ้างกับตำราดูแลสุนัขต้อนรับหน้าฝนที่เรารวบรวมมานี้ หากคุณคอยสังเกตและให้ความใส่ใจกับสุนัขอยู่เสมอ รับรองเลยว่าน้องหมาจะต้องสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง ห่างไกลจากโรคสุนัขหน้าฝนแน่นอน!
แหล่งอ้างอิง:
1. โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ
2.โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน