โรคกระดูกสุนัข

ทำความรู้จัก 3 โรคกระดูกในสุนัขที่ห้ามมองข้าม!

โดย Antinol Team

Written with love

ทำไมเราต้องให้ความสำคัญกับเรื่องกระดูกของสุนัข

กระดูกคือโครงสร้างสำคัญของร่างกาย เป็นส่วนที่ช่วยค้ำจุนร่างกายให้เคลื่อนไหวได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะในมนุษย์หรือสัตว์เลี้ยง กระดูกก็ยังคงเป็นส่วนสำคัญที่ต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอ คุณอาจเคยได้ยินวิธีการบำรุงกระดูกอย่างการกินแคลเซียมให้เพียงพอ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกระดูกก็อาจเสื่อมสภาพลงได้อยู่ดี สำหรับสุนัขแล้วก็สามารถเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูกได้เช่นเดียวกันกับมนุษย์ เพราะฉะนั้นในวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ 3 โรคกระดูกในสุนัขที่ห้ามมองข้ามกันเลย! 


  1. โรคข้อเสื่อม

หากพูดถึงโรคกระดูกในสุนัข “โรคข้อเสื่อม” ก็คือโรคที่สามารถพบเจอได้ง่ายที่สุด ข้อกระดูกของสุนัขจะมีเซลล์เนื้อเยื่อและกระดูกอ่อนผิวข้ออยู่ ทั้งหมดนี้เป็นตัวช่วยยึดและมีการผลิตน้ำไขข้อออกมาเป็นสารหล่อลื่นเพื่อลดแรงเสียดทานของกระดูก ทำให้กระดูกแต่ละชิ้นไม่เสียดสีกันระหว่างเคลื่อนไหว เพราะฉะนั้นสุนัขวัยชราจึงมีโอกาสเป็นโรคข้อเสื่อมได้มากกว่าปกติเนื่องจากการเสื่อมสภาพของร่างกาย โดยส่วนที่สามารถพบโรคข้อเสื่อมได้บ่อยๆ มีทั้งหมด 2 ส่วนด้วยกันคือ

  • ข้อสะโพกเสื่อม : ข้อสะโพกอยู่ช่วงเชิงกรานของสุนัข มีกระดูกอ่อนช่วยทำให้สุนัขสามารถขยับได้โดยมีเอ็นเป็นตัวช่วยยึด รับน้ำหนักเวลาสุนัขเคลื่อนไหวประมาณ 40% ของน้ำหนักทั้งหมด หากมีปัญหาส่วนนี้ก็จะทำให้ขยับตัวได้ลำบากและขาหลังลีบได้
  • กระดูกคอเสื่อม : กระดูกคอเป็นส่วนที่ยึดติดไปถึงกระดูกสันหลังสุนัข หากเกิดความผิดปกตินอกจากจะทำให้ขยับตัวลำบากแล้วยังอาจส่งผลให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบประสาทอื่นๆ ได้อีกด้วย

ปัจจัยที่ทำให้ข้อเสื่อมนอกจากเรื่องอายุแล้ว น้ำหนักตัวและพันธุกรรมก็มีส่วนเกี่ยวข้องเช่นกัน ดังนั้นถ้าหากพบว่าน้องหมาเริ่มเคลื่อนไหวผิดปกติ มีอาการเจ็บปวด ทรงตัวได้ไม่ดีหรือยืดขาได้ไม่เหมือนเดิม ผู้ปกครองควรรีบนำไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยโดยเร็วที่สุด ส่วนใหญ่แล้วการรักษาโรคข้อเสื่อมชนิดต่างๆ จะเป็นการใช้ยาเพื่อบรรเทา บางเคสที่หนักและยาไม่สามารถช่วยได้ก็จะใช้การผ่าตัดร่วมด้วย โดยคุณจะต้องคอยดูแลเรื่องน้ำหนักและอาหารการกินไปด้วยอีกทางถึงจะเห็นผลดีที่สุด


  1. โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

“โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท” แม้ว่าจะไม่ได้เป็นโรคที่พบเจอบ่อยนักในสุนัข แต่ก็เป็นโรคที่สามารถสร้างปัญหาได้เป็นอย่างมากหากเกิดขึ้น กระดูกสันหลังสุนัขประกอบด้วยกระดูกหลายท่อนต่อกันเป็นแนวยาว มีหมอนรองกระดูกบริเวณข้อต่อคอยช่วยลดแรงกระแทกจากการก้มๆ เงยๆ แต่ละครั้ง แต่เมื่อร่างกายเสื่อมสภาพหมอนรองกระดูกก็อาจจะยื่นออกไปกดทับไขสันหลังได้ ซึ่งไขสันหลังนี้เป็นจุดที่เรียกว่าเส้นประสาทนั่นเอง โรคนี้สามารถพบเจอได้ในทุกวัยของสุนัข โดยเฉพาะพันธุ์ขาสั้นหรือมีลักษณะตัวยาว ตัวอย่างเช่น ชิสุห์ ดัชชุน หรือ คอร์กี้ ยิ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคดังกล่าว 

เรียกได้ว่านอกจากจะเป็นโรคกระดูกในสุนัขแล้ว ยังเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทด้วย อาการของสุนัขที่กำลังเป็นโรคนี้จะมีการแสดงออกถึงความเจ็บปวดเสมอ การสัมผัสเบาๆ ก็อาจทำให้น้องหมาสะดุ้งขึ้นมาง่ายๆ ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที เพราะถ้าสะสมความเจ็บปวดนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะมีระดับความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นจนมีอาการเดินเซขาลากตามลำดับ สำหรับความเจ็บปวดระดับนี้ยังสามารถรักษาด้วยการกินยาและกายภาพบำบัด แต่ถ้าหากปล่อยมาจนถึงขั้นที่ไม่สามารถเดินได้ สัตวแพทย์อาจพิจารณานำเข้าผ่าตัดเพื่อทำการแก้ไข ดังนั้นถ้าหากปล่อยไว้เป็นเวลานานอาจทำให้สุนัขอัมพาตได้


  1. โรคสะบ้าเคลื่อน

มาถึงโรคสุดท้ายอย่าง “โรคสะบ้าเคลื่อน” กันบ้าง ค่อนข้างต่างจากโรคอื่นๆ เพราะเป็นโรคที่พบได้ตั้งแต่สุนัขยังอายุน้อย สำหรับโรคกระดูกในสุนัขโรคนี้เป็นโรคที่เกิดขึ้นกับสุนัขพันธุ์เล็กมากกว่าสุนัขพันธุ์ใหญ่ถึง 12 เท่าด้วยกัน เรียกว่าเป็นโรคประจำสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนและชิวาว่าก็ว่าได้ 

สะบ้าเป็นข้อต่อบริเวณหัวเข่าซึ่งจะอยู่ในร่องของกระดูกเพื่อช่วยเรื่องการเคลื่อนไหวเวลายืดหรือหดขา ดังนั้นการที่สะบ้าเคลื่อนก็คือการที่ลูกสะบ้านี้เคลื่อนออกจากจุดที่ควรอยู่นั่นเอง ส่งผลทำให้สุนัขมีอาการเจ็บจนลดการใช้งานของขาข้างนั้นๆ อาการที่โดดเด่นคือขาสุนัขจะโก่งหรือเดินแล้วยกขาขึ้นเสมอ สามารถตรวจเจอได้จากการสัมผัสโดยสัตวแพทย์หรือการ X-ray หาความผิดปกติ ด้านการรักษาทำได้หลายวิธี เช่น การกินยา, การผ่าตัดและการกายภาพบำบัด เป็นต้น


กายภาพบำบัดลดปัญหาโรคกระดูกในสุนัข

กายภาพบำบัดเป็นหนึ่งในเวชศาสตร์ฟื้นฟูที่สำคัญอย่างยิ่ง โรคกระดูกในสุนัขมักรักษาไปพร้อมๆ กับการพาสุนัขไปทำกายภาพบำบัด นอกจากนี้กายภาพบำบัดยังเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้เมื่อกระดูกสันหลังสุนัขได้รับการผ่าตัดอีกด้วย เพราะเป็นวิธีการมุ่งเน้นไปที่การลดความเจ็บปวดหรือการอักเสบ พร้อมๆ ไปกับการฟื้นฟูทีละลำดับ อยู่ในการควบคุมของสัตวแพทย์โดยเฉพาะ


การเปลี่ยนแปลงที่เล็กน้อยอาจนำไปสู่โรคร้ายที่น่ากลัวได้ โรคกระดูกในสุนัขทั้ง 3 โรคนี้ถือว่าเป็นภัยเงียบอย่างหนึ่ง ตรวจเจอช้าเท่าไหร่ก็เท่ากับว่าน้องหมาของคุณต้องอยู่กับความเจ็บปวดนานยิ่งขึ้น เสี่ยงต่อการเป็นอัมพาตได้ ดังนั้นการพาน้องหมาเข้าตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 2 ครั้งจึงสำคัญและขาดไม่ได้เลยทีเดียว

 

การเข้าใจถึงปัญหาเรื่องประดูกของสุนัข และ รู้วิธีการรักษานั้นเป็นเรื่องสำคัญ แต่เชื่อว่าพ่อแม่ของน้องๆ ทุกๆ คนก็ไม่อยากให้สุนัขของตัวเองนั้นต้องมีปัญหาด้านสุขภาพเลย เพราะฉนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือการป้องกันให้ได้มากที่สุดเพื่อไม่ให้น้องหมาเกิดปัญหาเหล่านี้ ซึ่งการให้สุนัขทานอาหารเสริมอย่าง Antinol เป็นประจำจะมีส่วนช่วยกันการป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูก แถมยังทำให้สุขภาพโดยรวมของน้องหมาแข็งแรงขึ้นอีกด้วย

สั่งซื้อ Antinol สำหรับสุนัข

 

แหล่งอ้างอิง:

1. โรงพยาบาลสัตว์ สัตวแพทย์ 4

2.โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ

Related stories